Month: ธันวาคม 2019

พ้นจากการกล่าวโทษ

ขณะคู่สามีภรรยาขับรถพ่วงผ่านแคลิฟอร์เนียเหนือที่แห้งแล้ง ทั้งสองรู้สึกว่ายางแตกและได้ยินเสียงโลหะขูดพื้นถนน ประกายไฟก่อให้เกิดไฟป่าคาร์ไฟร์ปี 2018 ซึ่งเผาพื้นที่กว่า 930 ตารางกิโลเมตร ทำลายบ้านกว่าหนึ่งพันหลังและคนมากมายเสียชีวิต

เมื่อผู้รอดชีวิตได้ยินว่าคู่สามีภรรยาเต็มไปด้วยความโศกเศร้าพวกเขาตั้งเพจเฟซบุ๊กเพื่อแสดง “การอภัยและส่งต่อความเมตตาเพื่อผู้ที่ละอายใจและสิ้นหวัง” และเขียนถึงคู่สามีภรรยา หญิงคนหนึ่งเขียนว่า “ในฐานะคนที่สูญเสียบ้านจากไฟไหม้ครั้งนี้ ฉันอยากให้คุณรู้ว่าครอบครัวเราและคนอื่นที่สูญเสียบ้านไม่โทษคุณอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ หวังว่าข้อความนี้จะแบ่งเบาความหนักใจของคุณเราจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกัน”

การกล่าวโทษกลืนกินจิตวิญญาณของเรา เป็นความกลัวเมื่อเราทำสิ่งที่ไม่สามารถชดเชยได้ ขอบคุณพระเจ้าที่พระคัมภีร์เปิดเผยว่า “ถ้าใจของเรากล่าวโทษตัวเราเมื่อไร เรารู้ว่า...พระเจ้าทรงเป็นใหญ่กว่าใจของเรา” (1 ยน.3:19-20) ไม่ว่าเราละอายใจเรื่องอะไร พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่กว่าสิ่งเหล่านั้น พระเยซูทรงเรียกให้เรามาสู่การกลับใจเพื่อการเยียวยา (หากจำเป็น) หรือเปิดเผยความละอายที่เผาผลาญเราอยู่ และรับการช่วยกู้จากพระองค์ เรา “หมดกังวลจำเพาะพระองค์ (ข้อ 19)

ไม่ว่าเราเสียใจเรื่องใด และหวังย้อนกลับไปแก้ไขพระเจ้านำเราให้ใกล้พระองค์ พระเยซูทรงยิ้มให้และตรัสว่า “ใจของเจ้าเป็นอิสระแล้ว”

ซองจดหมายหายไป

ผมเจอของสิ่งนี้ ขณะที่เราเดินทางกลับจากการไปเยี่ยมครอบครัวที่รัฐอื่น ผมกำลังเติมน้ำมันแล้วสังเกตเห็นซองจดหมายสกปรกและหนาอยู่ที่พื้น ผมหยิบขึ้นมาทั้งที่สกปรกและเปิดดู และแปลกใจที่พบว่ามีเงินหนึ่งร้อยดอลล่าร์อยู่ในนั้น

มีคนทำเงินหนึ่งร้อยดอลล่าร์หายและอาจกำลังหาอย่างตื่นตระหนก ผมให้เบอร์โทรศัพท์ไว้กับพนักงานที่ปั๊มเผื่อใครจะติดต่อรับคืน แต่ไม่มีใครติดต่อมาเลย

มีคนเป็นเจ้าของเงินนั้นและทำหาย ทรัพย์สมบัติฝ่ายโลกมักเป็นเช่นนั้น บางทีหายไป บางทีถูกขโมย หรือถูกใช้ไปอย่างสิ้นเปลือง อาจหายไปกับการลงทุนที่ขาดทุนหรือตลาดหุ้นซึ่งเราควบคุมไม่ได้ แต่ทรัพย์สมบัติในสวรรค์ที่เรามีในพระเยซูไม่เป็นเช่นนั้น คือความสัมพันธ์กับพระเจ้าที่ได้รับการฟื้นฟูแล้วและพระสัญญาว่าเราจะได้ชีวิตนิรันดร์ เราไม่มีวันทำทรัพย์สมบัตินี้หล่นหายที่ปั๊มน้ำมันหรือที่ไหนก็ตาม

ด้วยเหตุนี้พระคริสต์จึงสอนให้เราส่ำสม “ทรัพย์สมบัติในสวรรค์” (มธ.6:20) เราทำได้โดยการ “กระทำดีมากๆ” (1 ทธ.6:18) หรือ “มั่งมีในความเชื่อ” (ยก.2:5) โดยช่วยเหลือผู้อื่นด้วยความรักและบอกเขาเรื่องพระเยซู เมื่อพระเจ้านำและเสริมกำลังเรา ให้เราส่ำสมทรัพย์สมบัตินิรันดร์ในขณะที่รอคอยอนาคตนิรันดร์ที่จะได้อยู่กับพระองค์

อีกด้านของความรัก

โรงแรมแบบชาวโรมันสมัยพระเยซูคริสต์มีชื่อเสียงไม่ค่อยดีนัก ครูสอนศาสนายิวจึงไม่อนุญาตให้ฝากแม้กระทั่งวัวไว้ที่โรงแรม เมื่อสถานการณ์ไม่ดีอย่างนั้น คริสเตียนที่เดินทางในสมัยนั้นจึงมักจะไปพักที่บ้านผู้เชื่อแทน

ในบรรดาผู้คนที่เดินทางในยุคนั้นมีผู้สอนผิดซึ่งปฏิเสธว่าพระเยซูเป็นพระเมสสิยาห์อยู่ด้วย ด้วยเหตุนี้จดหมายของยอห์นฉบับที่ 2 จึงบอกผู้อ่านว่ามีบางเวลาที่ต้องไม่ให้การต้อนรับ ยอห์นกล่าวในจดหมายฉบับก่อนว่าผู้สอนผิดเหล่านั้นคือ “ผู้ปฏิเสธพระคริสต์ คือ ปฏิเสธพระบิดาและพระบุตร” (1 ยน.2:22) ท่านขยายความใน 2 ยอห์นว่า ผู้ที่เชื่อว่าพระเยซูเป็นพระเมสสิยาห์ “มีทั้งพระบิดาและพระบุตร” (ข้อ 9)

ท่านยังเตือนว่า “ถ้าผู้ใดมาหาท่านและไม่นำพระโอวาทนี้มาด้วย อย่ารับเขาไว้ในเรือนและอย่าสวัสดีกับเขา” (ข้อ 10) การต้อนรับผู้ที่สอนผิดคือการมีส่วนนำคนออกห่างพระเจ้า

จดหมายฉบับที่สองของยอห์น ทำให้เราเห็น “อีกด้านหนึ่ง” ของความรักของพระเจ้า เรารับใช้พระเจ้าผู้ทรงต้อนรับทุกคน แต่ความรักแท้จะไม่สนับสนุนคนหลอกลวงที่เป็นภัยต่อตัวเองและผู้อื่น พระเจ้าทรงโอบกอด
คนที่เข้าหาพระองค์ด้วยใจสำนึกผิด แต่พระองค์ไม่ต้อนรับความหลอกลวง

ยังมีหวังหรือ

ชีวิตของเอ็ดเวิร์ด เพย์สัน (1783-1827) ลำบากมาก การเสียชีวิตของน้องชายมีผลต่อเขาอย่างยิ่ง เขามีอาการอารมณ์แปรปรวนสองขั้วและปวดหัวข้างเดียวรุนแรงอยู่หลายวัน ซ้ำร้ายเขายังตกจากม้าทำให้แขนพิการ และเกือบเสียชีวิตเพราะวัณโรค น่าประหลาดใจที่เขาไม่ได้ตอบสนองโดยท้อใจหรือสิ้นหวัง เพื่อนของเขาบอกว่าก่อนที่เขาจะเสียชีวิต เขาเปี่ยมด้วยความชื่นชมยินดี เป็นไปได้อย่างไร

ในจดหมายที่อัครทูตเปาโลเขียนถึงผู้เชื่อกรุงโรม ท่านแสดงความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมในความจริงเรื่องความรักของพระเจ้าในทุกสถานการณ์ ท่านพูดอย่างกล้าหาญว่า “ถ้าพระเจ้าทรงอยู่ฝ่ายเรา ใครจะขัดขวางเรา” (รม.8:31) ถ้าพระเจ้าประทานพระเยซูพระบุตรของพระองค์เพื่อมาช่วยเรา พระองค์จะจัดเตรียมทุกสิ่งที่จำเป็นในชีวิตนี้เช่นกัน เปาโลกล่าวถึงสถานการณ์ที่เกินจะทน 7 อย่างที่ท่านเผชิญ คือ ความทุกข์ ความยากลำบาก การเคี่ยวเข็ญ การกันดารอาหาร การเปลือยกาย การถูกโพยภัยและการถูกคมดาบ (ข้อ 35) ท่านไม่ได้กล่าวว่าความรักของพระคริสต์จะหยุดยั้งให้สิ่งไม่ดีไม่เกิดขึ้น แต่ “ในเหตุการณ์ทั้งปวงเหล่านี้ เรามีชัยเหลือล้นโดยพระองค์ผู้ได้ทรงรักเราทั้งหลาย” (ข้อ 37)

เราวางใจพระเจ้าได้อย่างสมบูรณ์ท่ามกลางความไม่แน่นอนในโลกโดยรู้ว่าไม่มีอะไรจะ “กระทำให้เราทั้งหลายขาดจากความรักของพระเจ้า ซึ่งมีอยู่ในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราได้” (ข้อ 39)

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไป นั่นเป็นการแสดงว่าท่านยอมรับ นโยบายการใช้คุกกี้ของเรา